Method: projects.locations.backends.patch

อัปเดตข้อมูลสำหรับแบ็กเอนด์เดียว

คำขอ HTTP

PATCH https://firebaseapphosting.googleapis.com/v1beta/{backend.name=projects/*/locations/*/backends/*}

URL ใช้ไวยากรณ์การแปลง gRPC

พารามิเตอร์เส้นทาง

พารามิเตอร์
backend.name

string

ตัวระบุ ชื่อทรัพยากรของแบ็กเอนด์

รูปแบบ:

projects/{project}/locations/{locationId}/backends/{backendId}

พารามิเตอร์การค้นหา

พารามิเตอร์
updateMask

string (FieldMask format)

ต้องระบุ มาสก์ของช่องใช้เพื่อระบุช่องที่จะเขียนทับในทรัพยากรแบ็กเอนด์ด้วยการอัปเดต ช่องที่ระบุใน updateMask จะสัมพันธ์กับทรัพยากร ไม่ใช่คำขอแบบเต็ม ระบบจะเขียนทับฟิลด์หากอยู่ในมาสก์ หากผู้ใช้ไม่ใส่มาสก์ ช่องทั้งหมดจะถูกเขียนทับ

ซึ่งเป็นรายการชื่อที่ตรงตามเกณฑ์ทั้งหมดของช่องที่คั่นด้วยคอมมา ตัวอย่าง: "user.displayName,photo"

requestId

string

ไม่บังคับ รหัสคำขอที่ไม่บังคับเพื่อระบุคำขอ ระบุรหัสคำขอที่ไม่ซ้ำกันเพื่อที่ว่าหากคุณต้องลองส่งคำขออีกครั้ง เซิร์ฟเวอร์จะทราบว่าไม่ต้องสนใจคำขอนั้นหากคำขอเสร็จสมบูรณ์แล้ว เซิร์ฟเวอร์จะรับประกันเป็นเวลาอย่างน้อย 60 นาทีนับตั้งแต่คำขอแรก

ตัวอย่างเช่น ลองพิจารณาสถานการณ์ที่คุณส่งคำขอครั้งแรกและส่งคำขอหมดเวลา หากคุณส่งคำขออีกครั้งด้วยรหัสคำขอเดียวกัน เซิร์ฟเวอร์จะตรวจสอบได้ว่าได้รับการดำเนินการเดิมที่มีรหัสคำขอเดียวกันหรือไม่ หากได้รับแล้ว จะไม่สนใจคำขอที่ 2 เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าสร้างสัญญาผูกมัดที่ซ้ำกันโดยไม่ตั้งใจ

รหัสคำขอต้องเป็น UUID ที่ถูกต้อง โดยมีข้อยกเว้นว่าระบบไม่รองรับ UUID เป็น 0 (00000000-0000-0000-0000-000000000000)

validateOnly

boolean

ไม่บังคับ บ่งบอกว่าคำขอควรได้รับการตรวจสอบ โดยไม่ต้องคงคำขอหรืออัปเดตทรัพยากร

allowMissing

boolean

ไม่บังคับ หากตั้งค่าเป็น "จริง" และไม่พบแบ็กเอนด์ ระบบจะสร้างแบ็กเอนด์ใหม่

เนื้อความของคำขอ

เนื้อหาของคำขอมีอินสแตนซ์ Backend

เนื้อหาการตอบกลับ

หากทำสำเร็จ เนื้อหาการตอบกลับจะมีอินสแตนซ์ Operation

ขอบเขตการให้สิทธิ์

ต้องใช้ขอบเขต OAuth ต่อไปนี้

  • https://www.googleapis.com/auth/cloud-platform

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ภาพรวมการตรวจสอบสิทธิ์