หน้านี้จะแสดงวิธีเปิดใช้ App Check ในแอป Unity โดยใช้ผู้ให้บริการ App Check ที่กำหนดเอง เมื่อเปิดใช้ App Check คุณจะมั่นใจได้ว่ามีเพียงแอปของคุณเท่านั้นที่เข้าถึงทรัพยากร Firebase ของโปรเจ็กต์ได้
หากต้องการใช้ App Check กับผู้ให้บริการเริ่มต้น ให้ดูที่เปิดใช้ App Check ด้วยผู้ให้บริการเริ่มต้นใน Unity
ก่อนเริ่มต้น
เพิ่ม Firebase ไปยังโปรเจ็กต์ Unity หากยังไม่ได้ทำ
ใช้ตรรกะฝั่งเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ App Check ที่กําหนดเอง
1. เพิ่มไลบรารี App Check ลงในแอป
ใส่ไลบรารี App Check ไว้ในชุดทรัพยากร Dependency ตามวิธีการตั้งค่าสำหรับ App Check
2. ใช้อินเทอร์เฟซ App Check
ก่อนอื่น คุณต้องสร้างคลาสที่ใช้อินเทอร์เฟซ IAppCheckProvider
และ
IAppCheckProviderFactory
คลาส AppCheckProvider
ต้องมีเมธอด GetTokenAsync()
ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลใดก็ตามที่ผู้ให้บริการ App Check ที่กําหนดเองต้องการใช้เป็นหลักฐานยืนยันตัวตน และส่งไปยังบริการรับโทเค็นเพื่อแลกกับโทเค็น App Check SDK ของ App Check จะจัดการแคชโทเค็น ดังนั้นคุณจึงควรรับโทเค็นใหม่ทุกครั้งในการใช้งาน GetTokenAsync()
public class YourCustomAppCheckProvider : IAppCheckProvider {
public Task<AppCheckToken> GetTokenAsync() {
// Logic to exchange proof of authenticity for an App Check token and
// expiration time.
// ...
AppCheckToken appCheckToken = new AppCheckToken() {
Token = tokenFromAbove,
ExpireTime = DateTime.UtcNow.AddMinutes(60)
};
return Task<AppCheckToken>.FromResult(appCheckToken);
}
};
นอกจากนี้ ให้ใช้คลาส AppCheckProviderFactory
ที่สร้างอินสแตนซ์ของการใช้งาน AppCheckProvider
ดังนี้
public class YourCustomAppCheckProviderFactory : IAppCheckProviderFactory {
IAppCheckProvider CreateProvider(FirebaseApp app) {
// Create and return an AppCheckProvider object.
return new YourCustomAppCheckProvider(app);
}
}
3. เริ่มต้น App Check
เพิ่มโค้ดการเริ่มต้นต่อไปนี้ลงในแอปเพื่อให้ทํางานก่อนที่คุณจะใช้ Firebase SDK อื่นๆ
FirebaseAppCheck.SetAppCheckProviderFactory(
new YourCustomAppCheckProviderFactory());
ขั้นตอนถัดไป
เมื่อติดตั้งไลบรารี App Check ในแอปแล้ว ให้เริ่มเผยแพร่แอปที่อัปเดตไปยังผู้ใช้
แอปไคลเอ็นต์ที่อัปเดตแล้วจะเริ่มส่งโทเค็น App Check พร้อมกับคำขอทุกรายการที่ส่งไปยัง Firebase แต่ผลิตภัณฑ์ Firebase จะไม่กำหนดให้โทเค็นใช้งานได้จนกว่าคุณจะเปิดใช้การบังคับใช้ในส่วน App Check ของคอนโซล Firebase
ตรวจสอบเมตริกและเปิดใช้การบังคับใช้
อย่างไรก็ตาม ก่อนเปิดใช้การบังคับใช้ คุณควรตรวจสอบว่าการดำเนินการดังกล่าวจะไม่รบกวนผู้ใช้ที่ถูกต้องที่มีอยู่ ในทางกลับกัน หากคุณเห็นการใช้ทรัพยากรแอปที่น่าสงสัย คุณอาจต้องเปิดใช้การบังคับใช้เร็วขึ้น
คุณดูเมตริก App Check ของบริการที่ใช้อยู่เพื่อช่วยในการตัดสินใจนี้ได้ ดังนี้
- ตรวจสอบเมตริกคำขอ App Check สำหรับ Realtime Database, Cloud Firestore, Cloud Storage, Authentication (เบต้า) และ Vertex AI in Firebase
- ตรวจสอบเมตริกคำขอ App Check สำหรับ Cloud Functions
เปิดใช้การบังคับใช้ App Check
เมื่อเข้าใจว่า App Check จะส่งผลต่อผู้ใช้อย่างไรและพร้อมที่จะดำเนินการต่อแล้ว ให้เปิดใช้การบังคับใช้ App Check โดยทำดังนี้
- เปิดใช้การบังคับใช้ App Check สำหรับ Realtime Database, Cloud Firestore, Cloud Storage, Authentication (เบต้า) และ Vertex AI in Firebase
- เปิดใช้การบังคับใช้ App Check สำหรับ Cloud Functions
ใช้ App Check ในสภาพแวดล้อมการแก้ไขข้อบกพร่อง
หลังจากที่ลงทะเบียนแอปสำหรับ App Check แล้ว หากคุณต้องการเรียกใช้แอปในสภาพแวดล้อมที่โดยปกติแล้ว App Check จะจัดประเภทว่าไม่ถูกต้อง เช่น โปรแกรมจำลองระหว่างการพัฒนา หรือจากสภาพแวดล้อมการผสานรวมอย่างต่อเนื่อง (CI) คุณสร้างบิลด์การแก้ไขข้อบกพร่องของแอปที่ใช้ผู้ให้บริการแก้ไขข้อบกพร่อง App Check แทนผู้ให้บริการเอกสารรับรองจริงได้
โปรดดูหัวข้อใช้ App Check กับผู้ให้บริการแก้ไขข้อบกพร่องใน Unity