Shell ของ Cloud Functions มอบ Shell แบบอินเทอร์แอกทีฟสำหรับการเรียกใช้ฟังก์ชันที่มีข้อมูลการทดสอบ Shell รองรับทริกเกอร์ทุกประเภท
ตั้งค่าข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ดูแลระบบ (ไม่บังคับ)
หากต้องการให้การทดสอบฟังก์ชันโต้ตอบกับ Google APIs หรือ Firebase API อื่นๆ ผ่าน Firebase Admin SDK คุณอาจต้องตั้งค่าข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ดูแลระบบ
- ทริกเกอร์ Cloud Firestore และ Realtime Database มีข้อมูลเข้าสู่ระบบเพียงพออยู่แล้วและไม่ต้องมีการตั้งค่าเพิ่มเติม
- API อื่นๆ ทั้งหมด รวมถึง Firebase API เช่น การตรวจสอบสิทธิ์และ FCM หรือ Google API เช่น Cloud Translation หรือ Cloud Speech ต้องมีขั้นตอนการตั้งค่าตามที่อธิบายไว้ในส่วนนี้ ซึ่งจะมีผลไม่ว่าคุณจะใช้ Cloud Functions Shell หรือ
firebase emulators:start
ก็ตาม
วิธีตั้งค่าข้อมูลเข้าสู่ระบบของผู้ดูแลระบบสำหรับฟังก์ชันที่จำลอง
- เปิดแผงบัญชีบริการของคอนโซล Google Cloud
- ตรวจสอบว่าได้เลือกบัญชีบริการเริ่มต้นของ App Engine แล้ว และใช้เมนูตัวเลือกที่ด้านขวาเพื่อเลือกสร้างคีย์
- เมื่อมีข้อความแจ้ง ให้เลือก JSON สำหรับประเภทคีย์ แล้วคลิกสร้าง
ตั้งค่าข้อมูลเข้าสู่ระบบเริ่มต้นของ Google ให้ชี้ไปยังคีย์ที่ดาวน์โหลด ดังนี้
Unix
export GOOGLE_APPLICATION_CREDENTIALS="path/to/key.json" firebase functions:shell
Windows
set GOOGLE_APPLICATION_CREDENTIALS=path\to\key.json firebase functions:shell
หลังจากทำตามขั้นตอนเหล่านี้เสร็จแล้ว การทดสอบฟังก์ชันจะเข้าถึง Firebase และ Google APIs โดยใช้ Admin SDK ได้ เช่น เมื่อทดสอบทริกเกอร์การตรวจสอบสิทธิ์ ฟังก์ชันที่จำลองอาจเรียกใช้ admin.auth().getUserByEmail(email)
แสดงฟังก์ชันโดยใช้ Shell ของ Cloud Functions
เชลล์ของ Cloud Functions จะจำลองทริกเกอร์ฟังก์ชันทุกประเภทด้วย Shell แบบอินเทอร์แอกทีฟสำหรับเรียกใช้ฟังก์ชันที่มีข้อมูลทดสอบ ตัวเลือกต่างๆ จะแตกต่างกันไปตามประเภทฟังก์ชัน แต่รูปแบบการใช้งานพื้นฐานมีดังนี้
myFunctionName(data, options)
ต้องระบุพารามิเตอร์ data
สำหรับทริกเกอร์ Realtime Database, Cloud Firestore และ PubSub แต่ไม่บังคับสำหรับฟังก์ชันประเภทอื่นๆ ทั้งหมด
นอกจากนี้ พารามิเตอร์ options
ที่ไม่บังคับใช้ได้กับฟังก์ชัน Realtime Database และ Cloud Firestore เท่านั้น
นอกจากนี้ คุณยังโหลดข้อมูลทดสอบจากไฟล์ในเครื่องได้โดยบันทึกไฟล์เป็นตัวแปรและเรียกใช้ฟังก์ชันพร้อมกับไฟล์ ดังนี้
var data = require('./path/to/testData.json');
myFunction(data);
ติดตั้งและกำหนดค่า Shell ของ Cloud Functions
หากต้องการใช้ฟีเจอร์นี้ firebase-tools
ต้องมีเวอร์ชันขั้นต่ำ 3.11.0 และ SDK ของ firebase-functions
ต้องมีเวอร์ชันขั้นต่ำ 0.6.2 หากต้องการอัปเดตทั้ง 2 แบบ ให้เรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้ในไดเรกทอรี functions/
สำหรับโปรเจ็กต์
npm install --save firebase-functions@latest
npm install -g firebase-tools
หากคุณใช้ตัวแปรการกำหนดค่าฟังก์ชันที่กำหนดเอง ก่อนอื่นให้เรียกใช้คำสั่งเพื่อรับการกำหนดค่าที่กำหนดเอง (เรียกใช้ภายในไดเรกทอรี functions
) ในสภาพแวดล้อมภายใน ดังนี้
firebase functions:config:get > .runtimeconfig.json # If using Windows PowerShell, replace the above with: # firebase functions:config:get | ac .runtimeconfig.json
ขั้นตอนสุดท้าย ให้เรียกใช้ Shell ด้วยคำสั่งต่อไปนี้
firebase functions:shell
เรียกใช้ฟังก์ชัน HTTPS
สำหรับการเรียกใช้ฟังก์ชัน HTTPS ใน Shell การใช้งานจะเหมือนกับของโมดูล NPM request
แต่แทนที่ request
ด้วยชื่อฟังก์ชันที่ต้องการจำลอง เช่น
# invoke
myHttpsFunction()
myHttpsFunction.get()
myHttpsFunction.post()
# invoke at sub-path
myHttpsFunction('/path')
myHttpsFunction.get('/path')
myHttpsFunction.post('/path')
# send POST request with form data
myHttpsFunction.post('/path').form( {foo: 'bar' })
เรียกใช้ฟังก์ชันเรียกใช้ HTTPS
เมื่อเรียกใช้ฟังก์ชันเรียกใช้ HTTPS ในเครื่อง คุณจะต้องให้ข้อมูลการทดสอบที่เหมาะสม
# invoke
myCallableFunction('test data')
myCallableFunction({'foo': 'bar'})
หรือคุณอาจส่ง Firebase-Instance-ID-token
เป็นพารามิเตอร์ที่ 2 ก็ได้ ค่านี้ต้องเป็นสตริง
# invoke with FCM registration token
myCallableFunction('test data', {instanceIdToken: 'sample token'})
การจำลอง context.auth
ไม่พร้อมใช้งานในขณะนี้
เรียกใช้ฟังก์ชันฐานข้อมูลเรียลไทม์
เมื่อเรียกใช้ฟังก์ชัน Realtime Database ในเครื่อง คุณจะต้องให้ข้อมูลการทดสอบที่เหมาะสม โดยทั่วไปจะหมายถึงการให้ข้อมูลการทดสอบใหม่สำหรับการดำเนินการ onCreate
, ข้อมูลเก่า/ที่นำออกสำหรับการดำเนินการ onDelete
และทั้ง 2 อย่างสำหรับฟังก์ชัน onUpdate
หรือ onWrite
# invoke onCreate function
myDatabaseFunction('new_data')
# invoke onDelete function
myDatabaseFunction('old_data')
# invoke onUpdate or onWrite function
myDatabaseFunction({before: 'old_data', after: 'new_data' })
นอกเหนือจากตัวเลือก before/after
แล้ว Shell ยังมีตัวเลือก params
เพื่อใช้ในการจำลองไวลด์การ์ดในเส้นทางดังนี้
# mock wildcards in path, for example: if the path was input/{group}/{id}
myDatabaseFunction('data', {params: {group: 'a', id: 123}})
โดยค่าเริ่มต้น Shell จะเรียกใช้ฟังก์ชัน Realtime Database ที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ (บัญชีบริการ) ใช้ตัวเลือก auth
เพื่อเรียกใช้ฟังก์ชันแบบผู้ใช้ปลายทางที่เฉพาะเจาะจงหรือในฐานะผู้ใช้ที่ไม่ได้ตรวจสอบสิทธิ์แทน
# to mock unauthenticated user
myDatabaseFunction('data', {authMode: 'USER'})
# to mock end user
myDatabaseFunction('data', {auth: {uid: 'abcd'}})
เรียกใช้ฟังก์ชันของ Firestore
เมื่อเรียกใช้ฟังก์ชันของ Firestore ภายในเครื่อง คุณจะต้องระบุข้อมูลการทดสอบที่เหมาะสม ซึ่งโดยทั่วไปจะหมายถึงการให้ข้อมูลการทดสอบใหม่สำหรับการดำเนินการ onCreate
, ข้อมูลเก่า/ที่นำออกสำหรับการดำเนินการ onDelete
และทั้ง 2 อย่างสำหรับฟังก์ชัน onUpdate
หรือ onWrite
โปรดทราบว่าข้อมูล Firestore ต้องเป็นคู่คีย์-ค่า โปรดดูประเภทข้อมูลที่รองรับ
# invoke onCreate function
myFirestoreFunction({foo: ‘new’})
# invoke onDelete function
myFirestoreFunction({foo: ‘old’})
# invoke onUpdate or onWrite function
myFirestoreFunction({before: {foo: ‘old’}, after: {foo: ‘new’} })
นอกเหนือจากช่อง before/after
ของออบเจ็กต์ data
แล้ว คุณยังใช้ช่อง params
ในออบเจ็กต์ options
เพื่อจำลองไวลด์การ์ดในชื่อเอกสารได้ด้วย โดยทำดังนี้
# mock wildcards in document name, for example: if the name was input/{group}/{id}
myFirestoreFunction({foo: ‘new’}, {params: {group: 'a', id: 123}})
Shell จะเรียกใช้ฟังก์ชัน Firestore ที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบเสมอ ซึ่งหมายความว่าจะจำลองเหตุการณ์สร้าง/อัปเดต/ลบราวกับว่าเป็นการดำเนินการโดยผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ
เรียกใช้ฟังก์ชัน PubSub
สำหรับฟังก์ชัน PubSub ให้แทรกเพย์โหลดข้อความในอินสแตนซ์ Buffer
และเพิ่มแอตทริบิวต์ข้อมูลที่ไม่บังคับตามที่แสดงด้านล่าง
// invokes a function with the JSON message { hello: 'world' } and attributes { foo: 'bar' }
myPubsubFunction({data: new Buffer('{"hello":"world"}'), attributes: {foo: 'bar'}})
เรียกใช้ฟังก์ชัน Analytics
คุณเรียกใช้ฟังก์ชัน Analytics โดยไม่มีข้อมูลได้โดยเรียกใช้ myAnalyticsFunction()
ใน Shell
หากต้องการเรียกใช้ฟังก์ชันที่มีข้อมูลทดสอบ เราขอแนะนำให้กำหนดตัวแปรสำหรับช่องข้อมูลเหตุการณ์เฉพาะที่ฟังก์ชันของคุณต้องใช้ ดังนี้
var data = {
eventDim: [{
// populates event.data.params
params: {foo: {stringValue: 'bar'} },
// Also valid:
// {intValue: '10'}, {floatValue: '1.0'}, {doubleValue: '1.0'}
// populates event.data.name
name: 'event_name',
// populates event.data.logTime, specify in microseconds
timestampMicros: Date.now() * 1000,
// populates event.data.previousLogTime, specify in microseconds
previousTimestampMicros: Date.now() * 1000,
// populates event.data.reportingDate, specify in 'YYYYMMDD' format
date: '20170930',
// populates event.data.valueInUSD
valueInUsd: 230
}],
userDim: userDim
};
myAnalyticsFunction(data);
เรียกใช้ฟังก์ชันพื้นที่เก็บข้อมูลและการตรวจสอบสิทธิ์
สำหรับฟังก์ชันพื้นที่เก็บข้อมูลและการตรวจสอบสิทธิ์ ให้เรียกใช้ฟังก์ชันในเครื่องที่มีข้อมูลการทดสอบที่คุณต้องการดูภายในของฟังก์ชัน ข้อมูลการทดสอบต้องเป็นไปตามรูปแบบข้อมูลที่เกี่ยวข้องดังนี้
- สำหรับ Cloud Storage:
ObjectMetadata
- สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์:
UserRecord
ระบุเฉพาะช่องที่โค้ดของคุณใช้ หรือไม่ระบุเลยหากต้องการเรียกใช้ฟังก์ชันเท่านั้น