ทริกเกอร์การกำหนดค่าระยะไกล


คุณสามารถทริกเกอร์ฟังก์ชันเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ Firebase Remote Config ซึ่งรวมถึงการเผยแพร่การกำหนดค่าเวอร์ชันใหม่หรือการย้อนกลับเป็นเวอร์ชันเก่า คู่มือนี้จะอธิบายวิธีสร้างRemote Configฟังก์ชันพื้นหลัง ที่ดำเนินการเปรียบเทียบความแตกต่างของเทมเพลต 2 เวอร์ชัน

ทริกเกอร์ฟังก์ชัน Remote Config

หากต้องการกําหนดตัวแฮนเดิลสําหรับเหตุการณ์ Remote Config ให้ใช้ฟังก์ชัน onUpdate() ของข้อบังคับ functions.remoteConfig ออบเจ็กต์ TemplateVersion ที่ onUpdate แสดงผลจะมีช่องข้อมูลเมตาหลักสำหรับการอัปเดตเทมเพลต เช่น หมายเลขเวอร์ชันและเวลาของการอัปเดต นอกจากนี้ คุณยังเรียกข้อมูลอีเมลของผู้ใช้ที่ทําการอัปเดตพร้อมชื่อและรูปภาพได้หากมี

ต่อไปนี้คือตัวอย่างฟังก์ชัน Remote Config ที่แสดงผลต่างของเวอร์ชันที่อัปเดตแต่ละเวอร์ชันกับเวอร์ชันที่แทนที่ ฟังก์ชันจะตรวจสอบฟิลด์ versionNumber ของออบเจ็กต์เทมเพลตและดึงข้อมูลเวอร์ชันปัจจุบัน (ที่อัปเดตใหม่) พร้อมกับเวอร์ชันที่ต่ำกว่า 1 อันดับ ดังนี้

exports.showConfigDiff = functions.remoteConfig.onUpdate(versionMetadata => {
  return admin.credential.applicationDefault().getAccessToken()
    .then(accessTokenObj => {
      return accessTokenObj.access_token;
    })
    .then(accessToken => {
      const currentVersion = versionMetadata.versionNumber;
      const templatePromises = [];
      templatePromises.push(getTemplate(currentVersion, accessToken));
      templatePromises.push(getTemplate(currentVersion - 1, accessToken));

      return Promise.all(templatePromises);
    })
    .then(results => {
      const currentTemplate = results[0];
      const previousTemplate = results[1];

      const diff = jsonDiff.diffString(previousTemplate, currentTemplate);

      functions.logger.log(diff);

      return null;
    }).catch(error => {
      functions.logger.error(error);
      return null;
    });
});

ตัวอย่างนี้ใช้โมดูล json-diff และ request-promise เพื่อสร้างความแตกต่างและสร้างคําขอเพื่อรับออบเจ็กต์เทมเพลต ดูตัวอย่างที่ใช้ตรรกะไคลเอ็นต์ Remote Config และ Firebase Cloud Messaging ได้ที่เผยแพร่การอัปเดตการกําหนดค่าระยะไกลแบบเรียลไทม์