ตัวเลือกการติดตั้ง Unity เพิ่มเติม

คุณสามารถดาวน์โหลดแพ็กเกจแต่ละรายการจากเว็บไซต์ Google APIs for Unity แทนการดาวน์โหลดไฟล์ .zip ขนาดใหญ่ที่มีไฟล์ .unitypackage ทั้งหมดสำหรับทั้ง .NET 3.X และ .NET 4.X

เว็บไซต์มีสิ่งต่อไปนี้

  • ไฟล์ .NET 4.X .unitypackage แต่ละไฟล์เพื่อนําเข้าเป็นแพ็กเกจชิ้นงาน
  • ไฟล์ .tgz แต่ละไฟล์ที่จะนำเข้าโดยใช้เครื่องมือจัดการแพ็กเกจ Unity

ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อแอปใช้ผลิตภัณฑ์ Firebase รายการเดียว เนื่องจากไฟล์ .unitypackage แต่ละไฟล์จะมีทรัพยากร Dependency ที่จำเป็นทั้งหมด และไฟล์ .tgz จะแสดงอยู่ข้างไฟล์ .tgz ที่เกี่ยวข้องซึ่งไฟล์ .unitypackage เหล่านั้นต้องอาศัย

หน้านี้มีวิธีการเกี่ยวกับเครื่องมือจัดการแพ็กเกจของ Unity คุณจึงควรศึกษาเกี่ยวกับเครื่องมือนี้จากเอกสารประกอบของ Unity

นําเข้าแพ็กเกจ Firebase เป็นชิ้นงาน

เมื่อนำเข้าผลิตภัณฑ์ Firebase จาก.unitypackageไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ Google APIs for Unity ให้คำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

  • หากใช้ผลิตภัณฑ์ Firebase หลายรายการในโปรเจ็กต์ คุณต้องดาวน์โหลดและอัปเกรดผลิตภัณฑ์ Firebase ทั้งหมดเป็นเวอร์ชันเดียวกัน

  • อย่าใช้วิธีการนําเข้าหลายวิธีในโปรเจ็กต์เดียว กล่าวคือ อย่านําเข้าผลิตภัณฑ์ Firebase ด้วยขั้นตอนแพ็กเกจชิ้นงานและใช้ขั้นตอน Unity Package Manager

หลังจากดาวน์โหลดแล้ว ให้นำเข้าโดยทำดังนี้

  1. ในโปรเจ็กต์ Unity แบบเปิด ให้ไปที่เนื้อหา > นําเข้าแพ็กเกจ > แพ็กเกจที่กําหนดเอง

  2. คลิกนำเข้า ในหน้าต่างนำเข้าแพ็กเกจ Unity

นําเข้าแพ็กเกจ Firebase โดยใช้ Unity Package Manager

เมื่อนำเข้าผลิตภัณฑ์ Firebase จากไฟล์ .tgz ที่ดาวน์โหลดจากที่เก็บถาวรของ Google APIs สําหรับ Unity โปรดคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

  • วิธีนี้ใช้ได้ใน 2018.3 ขึ้นไปเท่านั้น

  • หากใช้ผลิตภัณฑ์ Firebase หลายรายการในโปรเจ็กต์ คุณต้องดาวน์โหลดและอัปเกรดผลิตภัณฑ์ Firebase ทั้งหมดเป็นเวอร์ชันเดียวกัน

  • อย่าใช้วิธีการนําเข้าหลายวิธีในโปรเจ็กต์เดียว กล่าวคือ อย่านําเข้าผลิตภัณฑ์ Firebase ด้วยขั้นตอนแพ็กเกจเนื้อหาและขั้นตอนเครื่องมือจัดการแพ็กเกจ Unity

  • ไฟล์ .tgz ของผลิตภัณฑ์แต่ละรายการจะลิงก์ไว้ด้วยกันในไฟล์ .tgz ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ คุณต้องดาวน์โหลดและนำเข้าไฟล์ .tgz ของผลิตภัณฑ์และไฟล์ .tgz ของข้อกำหนดตามลำดับที่ถูกต้อง ดังนี้

    1. เครื่องมือจัดการทรัพยากรภายนอก (com.google.external-dependency-manager)
    2. Firebase Core (com.google.firebase.app)
    3. ผลิตภัณฑ์ Firebase ที่ใช้ในโปรเจ็กต์ หากคุณใช้ Realtime Database หรือ Cloud Storage ให้นำเข้า Authentication (com.google.firebase.auth) ก่อน

หลังจากดาวน์โหลดแล้ว ให้นําเข้าไฟล์ .tgz ไปยังโปรเจ็กต์โดยใช้วิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้

UI เครื่องมือจัดการแพ็กเกจ

  1. เปิดหน้าต่าง Package Manager ของ Unity
  2. คลิกไอคอน + ที่มุมซ้ายบนของหน้าต่างตัวจัดการแพ็กเกจ แล้วเลือก Add package from tarball เพื่อเปิดโปรแกรมเรียกดูไฟล์
  3. เลือกไฟล์ tarball ที่ต้องการในโปรแกรมเรียกดูไฟล์

Unity 2019 บางเวอร์ชันเก่าไม่รองรับการเพิ่มไฟล์ tarball โดยตรง ในกรณีนี้ คุณจะต้องดำเนินการดังนี้

  1. แตกไฟล์ .tgz
  2. คลิกไอคอน + ที่มุมซ้ายบนของหน้าต่างเครื่องมือจัดการแพ็กเกจ แล้วเลือก Add package from disk เพื่อเปิดโปรแกรมเรียกดูไฟล์
  3. เลือกโฟลเดอร์ที่แตกไฟล์แล้วในโปรแกรมเรียกดูไฟล์

manifest.json

  1. สร้างโฟลเดอร์ใหม่ข้างโฟลเดอร์ Packages ของโปรเจ็กต์ แล้วตั้งชื่อเป็น GooglePackages
  2. วางไฟล์ .tgz ไว้ในโฟลเดอร์นั้น
  3. ใช้เครื่องมือแก้ไขข้อความเพื่อเปิด Packages/manifest.json ในโฟลเดอร์โปรเจ็กต์ Unity
  4. เพิ่มรายการสำหรับแต่ละแพ็กเกจที่ต้องการนำเข้า โดยจับคู่ชื่อแพ็กเกจกับตำแหน่งบนดิสก์ อย่าลืมใส่ file: ต่อท้ายเส้นทางไฟล์ .tgz ตัวอย่างเช่น หากคุณนําเข้า com.google.firebase.storage และข้อกําหนดของ manifest.json จะมีลักษณะดังนี้

    {
      "dependencies": {
        "com.google.external-dependency-manager": "file:../GooglePackages/com.google.external-dependency-manager-1.2.164.tgz",
        "com.google.firebase.app": "file:../GooglePackages/com.google.firebase.app-7.1.0.tgz",
        "com.google.firebase.auth": "file:../GooglePackages/com.google.firebase.auth-7.1.0.tgz",
        "com.google.firebase.storage": "file:../GooglePackages/com.google.firebase.storage-7.1.0.tgz",
        // com.unity package entries...
      }
    }
    
  5. บันทึกไฟล์ manifest.json

  6. เมื่อ Unity ได้รับโฟกัสอีกครั้ง ระบบจะโหลด manifest.json ซ้ำและนำเข้าแพ็กเกจที่เพิ่มใหม่

Unity เวอร์ชันเก่าบางเวอร์ชันไม่รองรับไฟล์ .tgz ใน manifest.json ในกรณีนี้ คุณควรทำดังนี้

  1. แตกไฟล์ .tgz
  2. แก้ไข manifest.json เพื่อใช้เส้นทางไปยังโฟลเดอร์ที่แตกไฟล์แทนไฟล์ .tgz ดังนี้

    {
      "dependencies": {
        "com.google.external-dependency-manager": "file:../GooglePackages/com.google.external-dependency-manager-1.2.164",
        "com.google.firebase.app": "file:../GooglePackages/com.google.firebase.app-7.1.0",
        "com.google.firebase.auth": "file:../GooglePackages/com.google.firebase.auth-7.1.0",
        "com.google.firebase.storage": "file:../GooglePackages/com.google.firebase.storage-7.1.0",
        // com.unity package entries...
      }
    }
    

ย้ายข้อมูลจากเครื่องมือจัดการแพ็กเกจของ Unity ไปยัง Asset Pack

ในบางกรณี คุณอาจต้องการเปลี่ยนจากการใช้ Unity Package Manager เพื่อติดตามผลิตภัณฑ์ Firebase เป็นการนำเข้าผลิตภัณฑ์ในโฟลเดอร์ Assets

หากไม่แน่ใจว่ากำลังใช้วิธีการนําเข้าใด ให้เปิดไฟล์ Packages/manifest.json ในโฟลเดอร์โปรเจ็กต์ Unity หากไฟล์มีรายการที่ขึ้นต้นด้วย com.google.firebase แสดงว่าโปรเจ็กต์ของคุณใช้ Unity Package Manager เพื่อนําเข้า

วิธีย้ายข้อมูลไปยัง Asset Pack

  1. จดบันทึกเวอร์ชันแพ็กเกจ Firebase ปัจจุบันในโปรเจ็กต์ แล้วนำออก

    1. จากเมนู Window ให้เลือก Package Manager ในหน้าต่างตัวจัดการแพ็กเกจ ให้เลือก "แพ็กเกจ: ในโปรเจ็กต์"
    2. จดบันทึกเวอร์ชันของแพ็กเกจ Firebase ที่นําเข้า
    3. คลิกชื่อแพ็กเกจแต่ละรายการ แล้วคลิกนำออก อย่าลืมนำแพ็กเกจ External Dependency Manager (.com.google.external-dependency-manager) ออก รวมถึงแพ็กเกจ Firebase ด้วย
  2. ดาวน์โหลดและนําเข้าไฟล์ .unitypackage เปลี่ยนทดแทน คุณมีสองตัวเลือกดังนี้

    • หากอัปเกรดแพ็กเกจแต่ละรายการเป็นเวอร์ชันล่าสุดได้ ให้ดาวน์โหลดไฟล์ ZIP ของ Firebase Unity SDK และนําเข้าตามที่อธิบายไว้ในเพิ่ม Firebase ลงในโปรเจ็กต์ Unity
    • หากต้องการเก็บเวอร์ชัน .unitypackage เวอร์ชันปัจจุบันไว้ คุณสามารถดาวน์โหลดและนําเข้าแต่ละแพ็กเกจตามที่อธิบายไว้ด้านบนในหน้านี้

ย้ายข้อมูลจาก Asset Pack ไปยัง Unity Package Manager

ในบางกรณี คุณอาจต้องการเปลี่ยนจากการนําเข้าผลิตภัณฑ์ในโฟลเดอร์ Assets เป็นการนําเข้าและติดตามผลิตภัณฑ์ด้วย Unity Package Manager

หากไม่แน่ใจว่ากำลังใช้วิธีการนําเข้าใด ให้เปิดไฟล์ Packages/manifest.json ในโฟลเดอร์โปรเจ็กต์ Unity หากไฟล์มีรายการที่ขึ้นต้นด้วย com.google.firebase แสดงว่าโปรเจ็กต์ของคุณใช้ Unity Package Manager ในการนําเข้าอยู่แล้ว

วิธีย้ายข้อมูลไปยัง Unity Package Manager

  1. ตรวจสอบว่าได้นําแพ็กเกจ Firebase ทั้งหมดและแพ็กเกจเครื่องมือจัดการทรัพยากรภายนอกออกแล้วจากโฟลเดอร์ Assets โดยใช้วิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้

    UI ของ EDM4U

    1. ในโปรเจ็กต์ Unity แบบเปิด ให้ไปที่เนื้อหา > เครื่องมือจัดการDependency ภายนอก > ตัวจัดการเวอร์ชัน > ถอนการติดตั้งแพ็กเกจที่มีการจัดการ
    2. เลือกแพ็กเกจ Firebase และเครื่องมือจัดการทรัพยากร Dependency ภายนอกทั้งหมด
    3. คลิกถอนการติดตั้งแพ็กเกจที่เลือก

    การนำออกด้วยตนเอง

    ใช้เครื่องมือระบบไฟล์เพื่อลบโฟลเดอร์ต่อไปนี้ด้วยตนเอง

    • Assets/Editor Default Resources/Firebase
    • Assets/ExternalDependencyManager
    • Assets/Firebase
    • Assets/Parse
    • Assets/Plugins/iOS/Firebase
  2. นําเข้าแพ็กเกจโดยใช้เครื่องมือจัดการแพ็กเกจ Unity ตามที่อธิบายไว้ด้านบนในหน้านี้